MADAME MAFIA
chapter 5
“..อืออ...อือ...อื้มมม.ม...”
ผมกัดชายเสื้อตัวเองไว้ก็เลยมีเสียงเล็ดลอดออกมาเพียงแค่นั้น
ขณะสะโพกเปลือยเปล่าขยับขึ้นลงตามจังหวะของคนที่นอนกำกับอยู่ข้างใต้
“แน่นชะมัดเลย...ซันนี่”
ฟ้าเลียริมฝีปากตัวเองอย่างพอใจ เสียงของเขาแตกพร่า ตาของเขาฉ่ำเยิ้มไปด้วยไฟปรารถนา
มือของเขาก็ขยำแก้มก้นผมสลับกับพยายามจับมันแยกออกจากกันครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างไม่รู้เบื่อ
ส่วนสะโพกร้อยแรงม้าของเขาก็ไม่เคยหยุดอยู่นิ่งๆ
ก็ใช่ ผมกำลังทำในสิ่งที่เขาขอ(..หรือที่เขาบอกว่าเขาฝันเอาไว้) ผมพูดไว้แล้วว่าถ้าเขาอยากให้ทำอะไร
ผมก็ต้องทำ ผมก็ลูกผู้ชาย.. ลูกผู้ชาย...คำไหน...อืมม..คำนั้น...ซี้ดดด อ่าส์...แต่จริงๆ
ส่วนหนึ่งมันก็เป็นความต้องการของผมเองด้วยล่ะ ผมไม่ใช่พระอิฐพระปูนนี่นา นานๆ จะได้เจอคนรักสัก..ที...โอ้วว...เขากระแทกได้ตรงจุดเลย...อ่ะ
ไม่ๆ ที่ผมจะพูดคือ นานๆ ผมจะได้เจอเขาสักที ผมก็อยากจะใช้เวลา เซ็กซี่ๆ(?)กับเขาเหมือนกัน
มันเป็นเรื่องธรรมดาของวัยหนุ่มสาวอย่างเรานี่นา หรือใครจะเถียง?
..อ๊ะ.อ๊ะ..ฮ่าาา...แต่จะว่าไปผมเองก็แอบมีฝันเหมือนกันนะ...อื้มม...
ผมฝันว่าสักวันเราจะ..อ่ะ..จะ..อ่ะ..จะ..อู้ววว ส..สลับโพซิชั่นกัน..อืมม...สักว่าฟ้าจะ..อ๊ะ..จะ..อ๊ะ..จะ..อ๊าววว
ขึ้นมาออน-ท็อปผม..บ้าง...โอ๊ยยย!
“ฟ้า!”
ผมฟาดอกคนที่นอนเด้งไม่ยั้งอยู่ข้างล่าง
“มึงเบาๆ บ้างไม่ได้หรือไง...อึก...กูเจ็บเป็นนะ!” ผมถึงกับน้ำตาร่วง
ถึงก่อนหน้าที่เขาจะใส่เข้ามา เขาจะช่วยเตรียมช่องทางของผมให้พร้อมรับศึกไว้พอสมควรแล้วก็เถอะ
แต่ผมจะยังรู้สึกเจ็บบ้างก็ไม่ใช่เรื่องแปลก อย่างแรกเลยเพราะไซส์ของเขาแม่งไม่เป็นมิตรกับตู...ผมสุดๆ(ผมจะพูดตรงๆ
นะ) อย่างที่สองคือเขาแม่งชอบเล่นแรง ไอ้ซาดิสม์
กระแทกไม่ยั้ง(ถ้าพรุ่งนี้เขาเอวเคล็ด ผมจะไม่แปลกใจเลย) และอย่างสุดท้าย
นอกจากเขาแล้วผมไม่เคยใช้ช่องทางน้อยๆ นี่ไปมีอะไรกับใครอีกเลย
เพราะงั้นถ้ามันจะคับ จะแคบ แล้วก็แสบบ้างเวลาถูกสวนก็ธรรมดา...
(นี่ผมพูดตรงไปไหม? หมดอารมณ์กันไปแล้วหรือเปล่า? ฮ่าๆๆ)
“หืม? ไม่ใช่ว่าซันนี่ชอบแบบเจ็บหน่อยๆ หรอกเหรอ?”
เขายิ้มร้าย ย้ายมือมากำรอบเจ้า ‘ซันนี่น้อย’
ที่ยังฟิตปึ๋งปั๋งทั้งที่พ่อของมันเพิ่งร้องว่าเจ็บไปแท้ๆ แม่มม! ไม่รู้จักรักหน้ารักตาพ่อมึงเลย ไอ้นี่มันคบไม่ได้!
ฮึ่ยย
“เอายังไง? ให้หยุดไหม?”
ฟ้าถามยิ้มๆ
มือก็รูดเจ้าซันนี่น้อยไปมา ทำผมเสียวจนขนลุกไปหมด อือออ...
“..ไม่ได้บอกให้หยุดสักหน่อย...”
ผมพูดอ้อมแอ้ม
เอนตัวไปกอดไปซบเขา จูบสันกรามเขาแล้วพูดอ้อนๆ “...แค่เบาๆ หน่อย”
ฟ้าหัวเราะหึหึในคอ แต่แทนที่เขาจะทำอย่างที่ผมบอก
เขากลับหยุดขยับสะโพกเอาซะดื้อๆ แถมปล่อยให้ของตัวเองลื่นหลุดออกจากตัวผมอีก
“ฮื้อออ...” ผมเงยหน้ามองเขาอย่างไม่ชอบใจ
“งั้นซันนี่ขยับเอาเองแล้วกัน” เขาว่างั้นด้วยหน้าตาเจ้าเล่ห์
“ถ้าให้ฟ้าขยับ เดี๋ยวจะห้ามใจไม่อยู่อีก”
เขายืดตัวขึ้นมาจูบปลายคางผมอย่างประจบ แต่ผมผลักให้เขานอนลงไปตามเดิม
มือข้างหนึ่งกดอกเขาไว้ อีกมือจับ ‘ฟ้าประทาน’ ที่สวมถุงฯมิดชิดจ่อเข้ากับช่องทางของตัวเอง
แล้วค่อยๆ กดสะโพกลงเพื่อรับมันเข้าไปในตัวอีกครั้ง
“งั้นนอนเฉยๆ ไปเลย”
ผมสั่งอย่างเอาแต่ใจ หลังได้ ‘ฟ้าประทาน’ มาขังไว้เป็นตัวประกันแล้ว
“ตามนั้น~” ฟ้าตอบรับอย่างอารมณ์ดี
ชิ! คอยดูเถอะ จะทำให้ร้องไม่เป็นภาษาคนเลย
“...อ๊ะ..อ๊ะ...ฟ้า..อื้อ...ฟ้า!...ฟ้า...อ๊า..ฟ้า...มะ..อื้ม...ฮ้าา..”
ผมไม่รู้แล้วว่าตัวเองครางเป็นภาษาอะไร
พยายามเม้มปากกลั้นเสียงไว้แต่สุดท้ายก็เผลอเปิดปากร้องทุกที พอจะใช้มือปิดปาก ฟ้าก็มาดึงออก
การถูกเขาจ้องมองอยู่ตลอดเวลาทำให้ผมรู้สึกเหมือนตัวเองช่างไร้ยางอาย
แต่ผมก็ไม่สามารถหยุดได้ สะโพกของผมมันขยับไปเอง หัวผมว่างเปล่า ผมคิดถึงอะไรอื่นไม่ได้อีก
ผม...
“ซันนี่...อึก...ถ้ายังไม่หยุดขย่ม..แบบนั้น...กู..ฮึ่ม..กูจะ...”
ฟ้ากัดฟันพูดเสียงขาดเป็นห้วง
เส้นเลือดปูดโปนตรงขมับของเขาบ่งบอกว่าเจ้าตัวกำลังพยายามอดทนอดกลั้นอย่างเต็มที่
สองมือของเขาบีบข้อมือผมเอาไว้แน่น เขาเกร็งสะโพก
จากนั้นไม่กี่วินาทีเขาก็ครางลึกในลำคอหลังได้ปลดปล่อย...
“อ๊ะ...ฟ้า!...ฟ้า!...ฟ้า...!!”
ผมใช้มือที่ถูกปล่อยเป็นอิสระมาสัมผัสทางด้านหน้าของตัวเอง
ฟ้าขยับเอวช่วยส่งเบาๆ
ก่อนที่อารมณ์รักของผมจะทะลักทะลายออกมาราวกับทำนบกั้นน้ำที่พังลง มันพุ่งไกลขึ้นถึงจนถึงใบหน้าของเขาจนแม้แต่ตัวผมเองยังตกใจ
“..ฮึก...”
ผมทิ้งน้ำหนักตัวทั้งหมดลงบนตัวเขาอย่างเหนื่อยหอบ
ฟ้าตวัดลิ้นเลียน้ำรักที่เปื้อนแถวมุมปากตัวเองโดยไม่ละสายตาไปจากผม ก่อนจะเอื้อมมือมารั้งคอผมลงไปแลกเปลี่ยนเอนไซม์ผสมสเปิร์มกันอยู่อีกเป็นนาที
“สุดยอดกว่าที่คิดไว้ซะอีก”
ฟ้าชม (ช่ายย ผมคิดว่าเขาชมนะ)
“แบบนี้หลงหัวปักหัวปำกันพอดี”
เขาหัวเราะลงคออย่างถูกใจ
“ก็ลองไม่หลงกูดูสิ...”
ทุ่มสุดตัวขนาดนี้แล้ว ฮึ่ม
ผมทิ้งตัวนอนทับเขา ทำให้น้ำรักเปรอะเปื้อนตัวของเราทั้งคู่
แต่ผมไม่สนแล้ว ผมหลับตาลงอย่างอ่อนแรง
นี่เป็นเซ็กส์ที่ดูดพลังชีวิตผมไปมากที่สุดในรอบหลายปีเลย ให้ตาย
ช่วงล่างของผมยังอยู่ดีไหม? มันชาจนแทบไม่รู้สึกอะไรแล้วสิ
“หึหึหึ...”
ผมยังได้ยินเสียงหัวเราะของฟ้า
แต่เหมือนมันดังมาจากที่ที่ไกลออกไปทุกที ผมรู้สึกว่าเขากอดผมเอาไว้ ผมรู้สึกเหมือนกำลังดำดิ่งสู่จุดที่ลึกที่สุดของสติ
จนกระทั่ง ผมรู้สึกถึงลม...
“อือออ” ผมครางเบาๆ
“เป็นไร?” ฟ้าถาม
น้ำเสียงเขาฟังอ่อนโยนกว่าเวลาปกติ มันฟังแปลกหูอยู่บ้าง แต่ผมก็ชอบ
“หนาวตูด”
ผมพูดกับซอกคอเขาโดยไม่ได้ลืมตา
ฟ้าหัวเราะชอบใจอีก เขาตีก้นผมเบาๆ
“ไม่เซ็กซี่เลย”
ตอนแรกก็แค่ตีเล่นๆ แต่ไปๆ มาๆ ก็เริ่มเปลี่ยนเป็นนวดคลึง
จากนั้นก็บีบขยำ ตามด้วยดันนิ้วตัวเองเข้ามาแทนที ‘ฟ้าประทาน’
ที่เพิ่งอ่อนตัวแล้วหลุดออกไป..
“อะไรเล่า! ไอ้หื่นนี่” ผมปัดมือเขาออก
“ไม่อยากถูกคนที่ขย่มคนอื่นจนแทบขาดใจเมื่อกี๊ว่าเอาเลย”
“มึงอ่อนเองนี่ แตกก่อนกู”
ผมปรามาสแม่งซะเลย
“โหหห พูดงี้ยอมไม่ได้เลย”
เขาทำท่าจะพลิกขึ้นมาอยู่ข้างบน
แต่ผมรู้ทันจึงกดไหล่เขาไว้ไม่ให้ลุกได้
“อย่าๆ ไอ้อ่อน”
ผมสบประมาทต่อแบบขำๆ
แต่ลมทะเลก็ทำให้ผมต้องรีบกอดตัวเองเอาด้วยความอย่างหนาวสั่น
“ฮื่อออ...”
“เข้าบ้านกันเหอะ” ฟ้าชวน
ผมแอบปลื้มใจเล็กๆ ที่เขาให้ความสำคัญกับร่างกายผมมากกว่าคำพูดผม
“อือ” ผมขยับลงจากตัวเขา
แต่พอจะลุกขึ้นยืนกลับล้มแหม่ะ ไปนั่งพับเพียบเรียบร้อยอยู่บนพื้นซะได้
...เกิดอะไรขึ้นน่ะ?
“ยืนไม่ไหวเหรอ?”
ฟ้าที่ลุกไปเก็บเสื้อผ้าหันกลับมามองผมอย่างประหลาดใจ แต่ผมไม่ได้ตอบ
รู้สึกอายจนพูดไม่ออก จะบ้าตาย สเตรงจ์ผมอยู่เลเวลไหนเนี่ย
มันต่ำเตี้ยเรี่ยดิ้นซะจนแค่เซ็กส์รอบเดียวก็ทำผมขาเปลี้ยแล้วเหรอ?
อ่อนแอสุดๆ ตะวันฉาย!
ฟ้าก้มลงมาแล้วช่วยยกตัวผมขึ้นนั่งบนเก้าอี้โซฟา
เอาเสื้อที่เพิ่งเก็บมาคลุมตัวให้ผม ส่วนตัวเองก็นั่งคุกเข่าข้างหนึ่ง
แหงนหน้ามองผมด้วยรอยยิ้มบาง
“ไหวไหม?”
“อือ”
ผมกำเสื้อที่คลุมตัวเองไว้แน่น ไม่ได้มองสบตากับเขา
“งั้นเข้าไปข้างใน...”
“มึงเข้าไปก่อนเหอะ”
ผมว่าจะนั่งอีกสักพักจนขาเริ่มกลับมามีแรงแล้วค่อยตามเข้าไป
“แต่ซันนี่หนาวไม่ใช่เหรอ?”
“เดี๋ยวกูใส่เสื้อผ้า..อ๊ะ!”
ผมหลุดร้องเสียงหลง
เพราะจู่ๆ ฟ้าก็ลุกขึ้นพร้อมกับช้อนอุ้มตัวผมขึ้นไปด้วย
ผมตกใจรีบผวากอดคอเขาเอาไว้ ให้ฟ้าได้หัวเราะชอบใจอีกหน
ก่อนที่เขาจะโยนตัวผมขึ้นเบาๆ เพื่อกระชับอ้อมแขน และจะได้เคลื่อนไหวได้สะดวกขึ้น
“ปล่อยเลย” ผมสั่ง
“ไม่อยากเลย” เขาปฏิเสธ
“ไม่หนักหรือไง?”
“สบายมาก”
เขาบอกแบบนั้นแล้วเริ่มเดิน เป็นการยืนยันคำพูดว่าถึงจะอุ้มผมอยู่
เขาก็ยังเดินได้สบาย แรงวัวแรงควายชะมัด ชิ...
พอเข้ามาในบ้านแล้วเขาก็ยังไม่วางผมลง แต่อุ้มผมเดินขึ้นบันไดมาเลย
“หนักมากไหม?” ผมถามอีกครั้งอย่างเกรงใจ
ถึงจะไม่ได้ขอร้อง แต่ผมก็ยังพอมีจิตสำนึกอยู่บ้างล่ะน่า
“ไม่มากหรอก... แค่เมียคนเดียว”
เขาบอกยิ้มๆ
“ไม่ใช่เมียสักหน่อย”
ผมปฏิเสธได้ไม่เต็มเสียงนัก
ถึงจะไม่ชอบใจเท่าไหร่ที่ถูกผลักบทผู้หญิงมาให้
แต่การกระทำของผมมันก็ไม่ต่างอะไรกับการเป็น ‘ผู้หญิงของเขา’ จริงๆ ...ถึงจะขัดใจ
แต่เซ็กส์ของเขาก็รู้สึกดี
น่าาา มันจะต้องมีวันของผมสักวันแหล่ะ
วันที่ได้เลื่อนขั้นจาก ‘เมีย’ เป็น ‘ผัว’ ของฟ้าน่ะ! ผมยังไม่ตัดใจหรอก!!
“คิดอะไรอยู่?”
“หือ?”
ผมรู้ตัวอีกทีก็ถูกฟ้าวางลงบนเตียงนอนบนชั้นสองแล้ว
“หน้าตามุ่งมั่นเชียว”
คำทักท้วงของเขาทำให้ผมกลับมานึกถึงเรื่องที่ฝันค้างเอาไว้
“กำลังคิดวางแผนให้อนาคต”
ผมตอบหน้าตาย
ฟ้าเลิกคิ้วอย่างสนใจ แล้วนั่งลงข้างๆ ผม
“หือ ว่าไงมั่งล่ะ?”
“อยากรู้เหรอ?” ผมหันไปถาม
แต่คงจะออกอาการมากไปหน่อย ฟ้าก็เลยมีแอบผงะเล็กๆ คล้ายจะรู้ตัว
“...อะไรล่ะ?” แต่เขาก็ยังทำใจดีสู้เสือ(หิว)
“เอาตูดมาให้ยืมก่อนดิ แล้วกูจะบอก”
ผมขยับเข้าไปหา
แต่เขากลับถอยออก หึหึหึหึหึ...
ความรู้สึกเหมือนได้เป็นผู้ล่านี่มันดีจริงๆ
“จะเอาไปทำอะไรเหรอ?” แหม
ใสซื่อนักนะ พ่อหนุ่ม
“น่า.. ก็รู้ๆ กันอยู่”
ผมผลักเขาให้นอนราบไปกับเตียง จากนั้นก็เข้าแทรกกลางหว่างขาทันที
เขายังมีกลางเกงอยู่ แต่มันก็หมิ่นเหม่ราวกลับพร้อมจะถูกสลัดออกได้ทุกเมื่อ
ผมก็จัดสิ รูดมันลงมาไว้ใต้สะโพกเขาเลย แล้วก็ยกก้นเขาขึ้นมาไว้บนหน้าขาตัวเอง
จะทานล่ะน้าาา~
“ซันนี่?” เขาผงกหัวขึ้นมา
“ไม่เป็นไรหรอก สัญญาว่าจะทำเบาๆ”
ผมใช้น้ำเสียงแบบอ่อนโยนที่สุด
พลางเลื่อนนิ้วลงไปกดตรงประตูเมืองลับแลของเขา แลบลิ้นเลียริมฝีปากตัวเองขณะมองวิวดีๆ
ตรงหน้าด้วยความตื่นเต้น
ไม่อยากจะเชื่อว่า ‘สักวัน’
ที่ผมหมายมั่นเอาไว้จะมาถึงเร็วทันใจขนาดนี้!
แต่จะยังไงก็เหอะ คืนนี้น้องก็มาเป็นเมียของพี่แล้วกันนะ~
หือ...!?
จู่ๆ โลกของผมก็กลับหัวกลับหาง?
“.......”
มันเกิดขึ้นเร็วมาก ผมจำได้ลางๆ ว่าผมเห็นขาของฟ้ายกขึ้น
แว่บแรกผมนึกว่าเขาตั้งใจจะเชิญชวนผม แต่แว่บต่อมากลับกลายเป็นว่าเขาใช้มันรัดคอผม
แล้วเขาก็พลิกตัว แล้วเขาก็มาคร่อมอยู่เหนือตัวผมอย่างตอนนี้แหล่ะ
แถมยังเอาไอ้เจ้า ‘ฟ้าประทาน’ ที่เริ่มดี๊ด๊าขึ้นมาเคาะปากผมด้วย
“ทั้งที่ ‘ฟ้าประทาน’ มันรักซันนี่ขนาดนี้ ก็ยังจะทิ้งไปหาอย่างอื่นอีกเหรอ?”
หน้าตามึงกวนส้นตีนมาก เอี้ยฟ้า! มึง! อย่าให้กูพลิกได้บ้างนะ
ฮึ่ยย พลาด!
“อื้ออ เอาออกปายยย..ย...”
ผมเบี่ยงหน้าหนี เพราะไม่ใช่แค่ที่ปาก แต่เขาเริ่มเอา ‘ไอ้หนูนั่น’ ถูไถไปทั่วหน้าผมแล้ว เดี๋ยวๆๆๆ มึงจะยัดมันเข้ามาในรูจมูกกูไม่ได้หรอกนะ!
โอยยๆ ไอ้โรคจิต! ไอ้หื่นกาม! ไอ้หน้าไม่อาย!!
“ทำไม? แค่ไม่กี่นาทีก็ลืมกันซะแล้วเหรอ? ใจร้ายจริง...”
ยัง ยัง... มันยังไม่หยุดอีก! เดี๋ยวพ่อก็ให้กัดขาดซะร้อก!
แต่คิดอีกที ไม่ดีกว่า ทำงั้นผมอาจเป็นคนที่จะมีปัญหาในอนาคตเองก็ได้
“ซันนี่ อ้าปากสิ”
“.......”
ผมปฏิเสธด้วยการนิ่งเงียบ ไม่ยอมหันกลับไปแลเขาด้วยซ้ำ
“ซันนี่”
“.......”
แต่อะไรบางอย่างในน้ำเสียงของเขาทำให้ผมต้องหันกลับไปจนได้
“.......”
เขาใช้ส่วนปลายของ ‘ฟ้าประทาน’
ที่เริ่มมีน้ำใสไหลเยิ้มออกมาไล้ไปตามริมฝีปากของผม
สายตายั่วเย้าบวกกับท่าทางที่จงใจยั่วยวนด้วยการลูบคลำหน้าอกตัวเองนั่นทำเอาผมนึกอยากจะฮึดสู้ขึ้นมาอีกสักรอบ
ถ้าผมกดเขาลงได้คราวนี้ผมสาบานเลยว่าผมจะไม่ปล่อยให้(ก้น)เขารอดไปได้แน่! ...แต่ก็ได้แค่คิด
ที่ผมทำจริงๆ คือแลบลิ้นออกไปเลียสิ่งที่อยู่ตรงหน้าตอนนี้
“อืมม... จิลของซันนี่มันสุดยอดเลย”
ผมเคยบอกไหม? ว่านอกจากหางคิ้วด้านขวาแล้ว
ผมยังใส่จิลเอาไว้ที่ลิ้นด้วย... ฟ้าครางลึกอย่างพอใจ
เขาพยายามจะผลักไสเจ้าสิ่งนั้นเข้ามาในปากผม
“มึงจะทำอีกรอบเหรอ?”
ผมช้อนตามอง
“ถ้ซันนี่ไม่ขัดข้อง”
เขาโน้มลงมาจูบผม
เราแลกลิ้นกันนัวจนไม่รู้ว่าน้ำลายใครเป็นของใคร
ก่อนจะผละจากกันครั้งหนึ่ง แล้วก็กลับมาหากันอีกราวกับแม่เหล็กต่างขั้ว
“อืมม.. แต่กูอยากอาบน้ำ”
ผมบอกระหว่างที่ฟ้าหันไปสนใจไซร้ซอกคอผมมากกว่าริมฝีปาก
“จบรอบนี้แล้วไปอาบน้ำด้วยกัน”
ปากเขาทั้งพูดทั้งจูบผิวเนื้อผมไม่ได้หยุด เช่นเดียวกับเอวของเขา
ที่ขยับถูเจ้า ‘ฟ้าประทาน’
นั่นกับท้องน้อยของผมมาตั้งแต่เมื่อกี๊แล้ว
“กูแทบจะไม่เหลือแรงแล้วนะ”
ผมนอนมองเพดาน
“ไม่เป็นไร แค่นอนเฉยๆ ก็ได้ มีแรงเมื่อไหร่ค่อยเด้งรับ ..โอ๊ะ”
เขาร้องเบาๆ เพราะถูกผมใช้กำปั้นทุกหัวไปทีนึง ก็ฟังมันพูดเข้าสิ! ไอ้กาม!!
“อ๊ะ..อืมม...”
แล้วก็เป็นอย่างที่เขาพูดนั่นแหล่ะ
ผมเด้งรับ...เอ่อ ไม่ใช่ ผมยอมตามใจเขาไปอีกรอบ
ไอ้ที่บอกว่าไม่เหลือแรงอีกแล้ว หรือที่ว่าใช้พลังทั้งหมดของชีวิตไปแล้ว ...ดูเหมือนว่าจะไม่จริงแฮะ
“ซันนี่ หลับแล้วเหรอ?”
คนที่อาสาใช้อกของตัวเองเป็นพนักให้ผมได้นั่งพิงในอ่างอาบน้ำเรียกถาม
“อืออ”
ผมพยายามจะเผยอลืมตาขึ้น แต่เปลือกตามันก็หนักเหลือเกิน น้ำอุ่นๆ
กับอกแน่นๆ นี่เป็นยานอนหลับชั้นดีจริงๆ แต่ถ้าจะนอนหลับทั้งที่แช่น้ำอยู่แบบนี้คงไม่ดี
“งั้นไปล้างตัวกัน แล้วไปนอนดีๆ บนเตียง”
ฟ้าฉุดผมออกจากอ่าง พาไปยืนใต้ฝักบัวเพื่อล้างน้ำสบู่ออก ผมยืนนิ่งๆ
ง่วงๆ ปล่อยให้เขาช่วยจัดการกับร่างกายผมอย่างที่เขาเต็มอกเต็มใจทำ แต่ผมก็คงจะง่วงมากไปหน่อย
ถึงได้ไม่รู้ตัวเลยว่าไอ้บอสจอมหื่นกามนั่นเอา ‘ฟ้าประทาน’
มาช่วยขัดช่วยถูร่องก้นให้ผมแทนใยขัดตัวตั้งแต่เมื่อไหร่
“อืม ฟ้า..?”
ผมหันไปมองอย่างไม่แน่ใจ แต่ก็ได้เห็นหน้าเขากำลังหื่นได้ที่เลย
“ตรงนี้มันลื่นอ่ะ”
เขารายงานด้วยน้ำเสียงที่หื่นยิ่งกว่าสีหน้าอีก
แต่มันลื่นแล้วไง? ลื่นแล้วมึงก็จะเอาไอ้นั่นมาถูก็ได้เรอะ?
สมองลงไปอยู่ที่ไข่หมดแล้วเรอะ? ลื่นก็ล้างออกสิวะ! กูมาอาบน้ำนะ! ไม่ได้มาให้มึง... อู้ยยย!
ผมมัวแต่นึกหาคำด่า จนถึงทันระวังตัวเลยว่าประตูหลังถูกบุกเข้ามาแล้ว
“..อือ..อย่า...”
ผมต้องใช้มือยันผนังเอาไว้เพื่อทรงตัว ที่มันเข้ามาง่ายขนาดนี้ก็เพราะน้ำสบู่ลื่นๆ
ที่ฟ้าจงใจไม่ล้างออกให้ผมนั่นแหล่ะ! ไอ้หื่นไม่มีสิ้นสุดเอ๊ย!
“อา...จะกี่ครั้งก็ยังแน่นอยู่ดี...”
ฟ้าขยับเนิบๆ เบาๆ ซึ่งมันไม่เพียงแต่ไม่สร้างความเจ็บปวดให้ผม
มันยังทำให้ผมมีแต่ความเสียวซ่านซะจนร้องครางไม่หยุดปาก
เรียกว่าหายง่วงเป็นปลิดทิ้งเหอะ ฟ้าแนบอกเขากับหลังของผม มือของเขาก็ช่วยดูแลเจ้า
‘ซันนี่น้อย’ ของผม คางของเขาเกยไว้กับไหล่ผม
และลิ้นของเขาก็ชอนไชเข้ามาในหูผมอย่างเร้าปลุกอารมณ์
“ฟ้า..อื้ม...เอาออก...ไป” แต่ผมต้องควบคุมตัวเองให้ได้
“ทำไม? ซันนี่ก็รู้สึกดีไม่ใช่เหรอ?” เขาขบติ่งหูผมแล้วดึง
ผมไม่ปฏิเสธเรื่องนั้นหรอก เพราะถ้าผมไม่รู้สึกดี
สะโพกของผมก็คงจะอยู่เป็นสุขกว่านี้ ไม่มาขยับรับกับจังหวะของเขาหรอก
แต่มันก็ยังมีเรื่องที่กวนใจผมอยู่...
“มึงไม่ได้ใส่..อึก..ถุง...”
“กูคลีนนะ เลือดก็เพิ่งจะตรวจไป”
“กูก็...ฮื่ออ...คลีนเหมือนกัน...อื้มม..แต่ว่า...”
“สัญญาว่าจะไม่แตกใน” เขากระซิบบอก
แล้วจากนั้นก็ไม่ยอมเปิดโอกาสให้ผมได้เถียงอะไรอีกเลย เพราะเขาคอยเฝ้าแต่จูบผมไว้เกือบตลอดเวลา
จนกระทั่งเสร็จสมอารมณ์หมายไปตามๆ กัน
เฮ้อออ... ช่างเป็นคืนที่ยาวนานเหลือเกิน
คุณคิดว่าจบแล้ว?
ช่ายยย จะว่าอย่างนั้นก็ได้ อย่างน้อยมันก็จบไปแล้ววันนึง
และนี่ก็เป็นวันใหม่ เพียงแต่ว่าฟ้ามันยังไม่ทันสว่าง
เพราะพระอาทิตมันยังไม่ลอยขึ้นมาก็เท่านั้นเอง
ที่ลอยเด่นอยู่ตอนนี้เลยมีแค่สะโพกของผมที่ฟ้ายกมันขึ้นมา
เขาจับผมคว่ำหน้า ให้ผมนอนคุกเข่าโด่งก้น ก่อนที่เขาจะซุกหน้าลงไปตรงนั้นตั้งแต่เมื่อกี๊แล้ว
ที่จริง ผมก็ได้นอนไปบ้างแล้วล่ะ หลังออกจากห้องน้ำในสภาพซอมบี้ พอ
ถึงที่นอนก็ดูเหมือนผมจะหลับเป็นตายไปแทบทันทีเลย
แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่านานแค่ไหนนะ
เพราะพอรู้ตัวอีกทีผมก็กำลังอยู่ในสภาพน่าอายอย่างที่เห็นนี่แหล่ะ
“ฮื่ออ...พอแล้ว...”
ผมสะดุ้งเป็นพักๆ กับปลายลิ้นที่ตวัดไปมาอยู่แถวจุดอ่อนไหวด้านหลัง
ฟ้าก็ยังตั้งอกตั้งใจทำเรื่องที่เขาอยากทำต่อไป
ส่วนผมก็ได้แต่ครางต่อไปแม้จะไม่ได้ตั้งใจก็ตาม
ตอนนี้ผมชักไม่แน่ใจแล้วว่าจะได้ออกจากเกาะนี้ในสภาพที่มีชีวิตอยู่ดีหรือเปล่า?
หรือบางทีผมอาจจะแห้งตายเพราะน้ำหมดตัวไปก่อนก็ได้?
นี่ชีวิตผมกำลังตกอยู่ในอันตรายสินะ
“อ๊ะ...อื้ออ...”
ผมสะดุ้งอีกหน
ผมรู้ว่ามันเป็นนิ้ว ต้องนิ้วแน่ๆ ที่เขาแหย่เข้ามา
แต่ลิ้นของเขาก็ยังทำงานได้ดี ...ให้ตายสิ มันดีเกินไป ผมจะเสร็จเอาง่ายๆ
เพราะแค่ลิ้นกับนิ้วของเขาเนี่ยนะ? ทำจากด้านหลังอย่างเดียวด้วยเนี่ยนะ? ม่ายยยย
แบบนั้นมันอัปยศเกินไป
“ฟ้า...” ผมเอี้ยวหน้าไปหาเขา
แม้จะมองเห็นหน้ากันไม่ชัดเพราะเราไม่ได้เปิดไฟ
อาศัยเพียงแสงของดวงจันทร์ที่ส่องผ่านเข้ามาทางผนังกระจกซึ่งเปิดม่านไว้ก็เท่านั้น
แต่มันก็ยังน่าอายอยู่ดี
“ว่าไง? รู้สึกไม่ดีเหรอ?”
“กูไม่อยากได้แค่นิ้ว...”
“แล้วซันนี่อยากได้อะไร?”
เขาถามทั้งที่รู้ดีอยู่แก่ใจ
“ไอ้นั่น...”
ผมยื่นเท้าไปเขี่ยเจ้าลูกชายที่ดูเหมือนจะกำลังร่าเริงของเขา
แต่ตัวพ่อมันกลับนั่งนิ่งไม่มีปฏิกิริยาตอบสนอง ผมเลยยันตัวลุกนั่ง
หันหน้าประจัญกับเขา แล้วยื่นเท้าไปสัมผัสกับลูกชายของเขาอีกทีแบบที่ตั้งใจทำกว่าเดิม
เสียงเขาหายใจกระตุก เมื่อผมเริ่มใช้ทั้งสองเท้าหยอกล้อเล่นกับ ‘ฟ้าประทาน’ ผมทั้งปั่น ทั้งรูด จนในที่สุดก็เหมือนฟ้าใกล้จะหมดความอดทน
ผมถอยออกมานิดหน่อย
นั่งเอนตัวไปข้างหลังโดยใช้มือข้างหนึ่งยันไว้ที่นอนเอาไว้
ชั้นขาขึ้นแล้วอ้าให้กว้างออกจนอะไรๆ ไม่เป็นความลับอีกต่อไป
แล้วใช้อีกมือที่เหลือช่วยชี้เปิดทางสู่ปราการด่านสุดท้ายที่ผมเต็มใจให้เขารุกรานเข้ามา
“เอามันข้ามาตรงนี้”
เสียงของผมดังกระเส่าด้วยแรงปรารถนา
ฟ้าเปลี่ยนเป็นนั่งคุกเข่า แต่เขาก็ยังเชื่องช้าไม่ได้อย่างใจผม
“เร็วๆ สิ” ผมเร่งเร้าอย่างเอาแต่ใจ
“ฮึ่ม!”
ผมได้ยินเสียงเขาคำรามในคอ ก่อนข้อเท้าทั้งสองข้างจะถูกเขาจับยกจนลอย
ผมหงายหลังลงไปกับเตียง เขาเบียดตัวแทรงกลางเข้ามา แล้วก่อนที่ผมจะทันได้ร้อง
เขาก็เสือกไส ‘ฟ้าประทาน’ ที่ผมต้องการเข้ามาในตัวผมแล้ว
“อื้อออ” ผมครางอย่างพอใจ
แม้จะรู้สึกอึดอัดกับสิ่งแปลกปลอมขนาดใหญ่ในร่างกาย
แต่ขณะเดียวกันมันก็ทำให้ผมรู้สึกดีด้วย
“อะ..อะ...ฮะ..ฮืมม...”
ฟ้าก้มลงมาจูบผมโดยไม่หยุดขยับเอว
หัวใจของเขาเต้นดังซะจนผมยังรู้สึกถึงมันได้ ผมจับใบหน้าของเขาตอนที่ผละออก
ผมเสียดายที่เราไม่ได้เปิดไฟ เพราะสีหน้าของเขาตอนนี้ คงเป็นอีกหนึ่งความทรงจำดีๆ
ของผม... แต่ก็ช่างเถอะ ผมจะเก็บความทรงจำพวกนั้นไปทำไม
ในเมื่อผมมีตัวจริงให้มองชัดๆ อยู่ตรงนี้แล้ว
“อืม...อะ..ฟ้า..ฟ้า...อา...”
ผมจะไม่ยอมปล่อยเขาไป ไม่ว่าจะยากเย็นแค่ไหนผมก็จะต้องทำให้เขากลายเป็นของผมในทุกๆ
ทางให้ได้ ผู้หญิงคนไหนก็ไม่สามารถเอาชนะผมได้
ผมจะต้องหาทางทำให้แน่ใจว่าเรื่องราวมันจะเป็นไปแบบนั้น ผมต้องหาสักทาง...
“...อึก...ซันนี่”
“ฟ้า..ฟ้า...!” ผมรั้งเขาลงมาจูบอีก
แล้วกอดเขาเอาไว้ตอนที่อารมณ์ใกล้จะไปถึงจุดสูงสุด “..อาาาา...!!!”
ผมปลดปล่อยจนแทบไม่เหลืออะไรให้ปล่อยออกมาอีกแล้ว
ฟ้าดึงของเขาออกจากตัวผม
รีบถอดถุงยากออกเพื่อจะเหนี่ยวรั้งตัวเองไปสู่การปลดปล่อยเช่นกัน
“..อั้ก...อึก...ฮืมมม....”
เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่หลังสาดซัดของเหลวของตัวเองไปทั่วหน้าท้องผม
“ซันนี่...เซ็กซี่...” เขาพูดทั้งที่ยังเหนื่อยหอบ
ผมยิ้ม อ้าแขนทั้งสองข้างต้อนรับเขาที่ทิ้งตัวลงมาอย่างหมดแรง
“น่ารัก...แล้วก็เซ็กซี่...”
เขานอนพูดพึมพำอย่างกับเด็กๆ
(แต่เป็นเด็กที่ลามกสุดๆ ไปเลยล่ะ ช่าย คุณก็รู้
ทั้งหมดที่เขาทำกับผมน่ะ)
ผมอดหัวเราะขำไม่ได้
“หึหึ...”
“รักนะ” เขาบอก
ลมหายใจที่เริ่มสม่ำเสมอของเขาเป็นสัญญาณบอกว่าเจ้าตัวใกล้จะเข้าสู่ห้วงนิทราเข้าไปทุกที
คงจะเหนื่อยสินะ ก็เล่นคึกไม่หยุดเลยนี่นา
ผมสอดมือเข้าไปใต้กลุ่มผมนุ่มของเขา แล้วจูบคอเขาที่อยู่ใกล้ปากผมพอดี
“รักเหมือนกัน” ผมบอกบ้าง
ท้องฟ้าด้านนอกเริ่มเปลี่ยนจากสีน้ำเงินเป็นสีส้มทีละนิด ทีละนิด
และอีกไม่นานก็คงจะกลายเป็นสีฟ้าครามเหมือนอย่างทุกวัน
อืม นี่สินะที่เขาเรียกว่า ‘สว่างคาตา’
ผมตื่นขึ้นมาอีกทีก็เลยมื้อเที่ยงของวันมาแล้ว
ผมไม่เห็นฟ้าอยู่บนเตียงด้วยกัน และท้องก็เริ่มหิว เลยลุกไปล้างหน้าแปรงฟัน
หยิบยืมเสื้อยืดแขนยาวสีขาวในตู้เสื้อผ้าของเขามาใส่ปิดทับกางเกงบ็อกเซอร์เพียงตัวบนร่างกายของตัวเอง
แล้วเดินขาถ่างลงมาชั้นล่างพร้อมอาการขัดยอกเอวอีกเล็กๆ น้อยๆ โอยๆๆ
“ฟ้า?”
ผมเรียกหาเจ้าของบ้านที่ไม่รู้ว่าไปมุดหัวอยู่ตรงไหน
ก่อนจะได้ยินเสียงโคร้งเคร้งดังมาจากทางครัว เดินมาดูก็เห็นว่าเขาอยู่ที่นี่จริงๆ
กำลังง่วนทำอะไรบางอยู่ตรงเคาน์เตอร์เตรียมอาหาร ผมย่องเข้าไปข้างหลังเขา
แล้วชะโงกข้ามไหล่ไปมอง
“อี้ววว อะไรเนี่ย!?” ผมเบ้หน้าทันทีที่เห็น
ก็ฟ้าน่ะสิ ไม่รู้ว่ากำลังทำอาหารหรือผลิตอาวุธชีวภาพอยู่กันแน่
แถมสภาพเคาน์เตอร์ก็เละเทะไม่มีชิ้นดีราวกับเพิ่งอิตาลีที่เพิ่งถูกอังกฤษทิ้งระเบิดใส่ก็ไม่ปาน
“ตื่นแล้วเหรอ?”
เขาหันมาจุ๊บปากทักทายผมแล้วกลับไปสนใจงานของตัวเองต่อ
“คิดว่าตื่นมาคงหิว เลยจะทำแซนด์วิชง่ายๆ ไว้ให้กิน”
แซนด์วิช? ง่ายๆ? เอาจริงดิ!?
แต่ที่ผมเห็นนี่มัน...ขนมปังโฮลวีททาด้วยนูเทลล่า แปะทับด้วยแฮม ละเลงด้วยมายองเนสผสมเนยถั่ว
วางคั่นด้วยดับเบิลชี้ส ป้ายด้วยทูน่า โปะด้วยไข่ดาวเละๆ
ที่คงจะเป็นสาเหตุให้ครัวกลายเป็นแบบนี้(ผมเห็นกระทะกับตะหลิว
แล้วก็เปลือกไข่ไปกองรวมกันอยู่ในซิงค์
ลักษณะว่าเขาจะปลุกปล้ำอยู่กับมันพักใหญ่เลย)
แล้วปิดทับอีกทีด้วยขนมปังโฮลวีทที่ทาด้วยนูเทลล่าอีกชั้น... มันจะกินได้จริงเรอะ!?
“ทำไมไม่มีผักเลยล่ะ?”
“ก็กูไม่ชอบผักอ่ะ”
ผมรู้อยู่แล้วล่ะเรื่องนั้น... แต่มึงบอกว่าจะทำให้กูกินไม่ใช่เรอะ?
อ่า ช่างเหอะ... ผมตัดใจเลิกคิดจะเถียงกับความมึนของเขา
“ซันนี่ลองกินดูสิ อร่อยนะ”
เขาหันตัวกลับมา พราวลี่พรีเซนต์แซนด์วิชสุดสยองขวัญถึงปากผมเลย
“.......”
ผมพยายามมองโลกในแง่ดีว่าบางทีรสชาติมันอาจจะดีตรงข้ามกับหน้าตาก็เป็นได้
พอคิดได้แบบนั้นก็รวบรวมความกล้าทั้งหมดที่มี แล้วกลั้นใจกัดไปคำนึง...
“..อุก!”
ผมรีบไปคายทิ้งแทบไม่ทัน
“มึงตั้งใจจะวางยาพิษกูเรอะ!?”
ผมหันกลับไปเม้ง
หยิบแก้วไปกดน้ำเปล่าจากตู้เย็นมาดื่มกลั้วคอ ผมคงพลาดรายงานส่วนผสมไปอย่างนึง
ดูเหมือนเขาจะโรยพริกไทยใส่ลงไปในแซนด์วิชนรกนั่นด้วย
มันเอาอะไรคิดว่าวัตถุดิบพวกนั้นจะไปด้วยกันได้!? ผมอยากรู้จริงนะ
“อะไรอ่ะ มันดูน่าจะอร่อยแท้ๆ”
ฟ้ามองของอันตรายในมือด้วยสีหน้างุนงง
แต่ที่ผมสงสัยกว่านั้นคือเขาเอาตาหรือตาตุ่มมองกันแน่ถึงเห็นว่าเจ้า ‘สิ่งนั้น’ มันดูน่าอร่อย?
“แหวะ!”
นั่นเป็นปฏิกิริยาตอบสนองหลังเขาได้ลอง ‘ของอร่อย’ ที่ตัวเองทำขึ้นมา
“ไง แซ่บบ่?” ผมติดภาษาที่สกายชอบใช้มาใช้บ้าง
ฟ้าถอนหายใจ เขามองแซนด์ในมือแบบกึ่งผิดหวังกึ่งเสียดาย
“เนี่ย... กูทอดไข่ดาวอยู่ครึ่งชั่วโมงเลยนะกว่าจะได้อันนี้”
ผมยิ้มอย่างเอ็นดู
หยิบแซนด์วิชแห่งความพยายามแต่กินไม่ได้นั่นโยนทิ้งถังขยะไป แล้วใช้สองแขนโอบรอบคอเขาไว้ด้วยความเสน่หา
“แค่เห็นมึงพยายามจะทำอะไรให้กูแบบนี้ กูก็อิ่มแล้วล่ะ ขอบใจนะ”
ผมหอมแก้มเขา ฟ้าจุ๊บกลับเบาๆ ที่ริมฝีปากผม เขาโอบสะโพกผมไว้หลวมๆ
เราแนบหน้าผากเข้าด้วยกัน มองตากันด้วยสายตาที่เปี่ยมไปด้วยรัก...
โครกกกกกก...~
“ซันนี่?”
คือ... นั่นเสียงท้องผมเองแหล่ะ ไม่ได้มีใครกดชักโครกที่ไหนหรอก
“ไหนว่าอิ่มแล้วไง?” ฟ้ามองผมด้วยสายตาล้อเลียน
“เอิ่ม... กูหมายถึง...อิ่มใจน่ะ แต่ท้องกูยังหิวอยู่” ผมแถแบบเขินๆ
แล้วเดินเลี่ยงไปเปิดตู้เย็นดูว่าพอจะมีอะไรที่กินได้บ้าง ปรากฏว่าในตู้เย็นอัดแน่นไปทั้งของสดของสำเร็จรูป
ที่เราจะสามารถใช้ดำรงชีวิตอยู่ได้เป็นเดือนเลยล่ะ
ผมเลือกหยิบกล่องใส่ผักสลัดหลากสีออกมา
พร้อมน้ำสลัดสำเร็จรูปที่ข้างขวดเขียนว่า ‘ไขมันต่ำ’ และทูน่าอีกกระป๋อง
หันมาเห็นฟ้ามุ่ยหน้าผมก็รู้แล้วว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่(เขาคงไม่อยากกินผัก)
ผมเลยหยิบกล้วยหอมติดมือออกมาอีกลูก
“ไหนเอานูเทลล่าของมึงมาหน่อยซิ”
ฟ้าส่งกระปุกช็อคโกแล็ตฮาเซลนัตมาให้ ผมใช้เจ้านั่นทาทั่วแผ่นขนมปังโฮลวีทที่ตัดขอบทิ้งแล้ว
หั่นกล้วยหอมแปะเรียงลงไปจนเต็ม แล้วปิดทับด้วยขนมปังที่ทานูเทลล่าอีกแผ่น พอทำได้
4 อัน ผมก็เอาทั้งหมดไปย่างในกระทะเทฟล่อน
“หอมจัง”
ฟ้าเข้ามายืนซ้อนหลัง เขากอดเอวผมไว้หลวมๆ เกยคางไว้บนไหล่
“อืม เดี๋ยวพอขนมปังเริ่มเกรียมก็กินได้แล้ว”
ผมจับแซนด์วิชกล้วยหอมนั่นพลิกทีละอัน
ช็อคโกแลตถั่วที่โดนความร้อนเริ่มละลายไหลเยิ้มแทรกซึมเป็นเนื้อเดียวกันทั้งกล้วยและขนมปังแล้ว
เมนูง่ายๆ นี่เป็นหนึ่งในเมนูโปรดมื้อเช้าของซิน หมอนั่นเป็นคนสอนให้ผมทำเอง
คือ...ไว้ทำให้ตัวมันกินน่ะ เพราะส่วนตัวผมไม่ค่อยจะนิยมบริโภคของหวานเท่าไหร่
“ซันนี่ต้องเป็นแม่ที่ดีได้แน่ๆ”
ฟ้าคลึงคางไปมากับไหล่ผม มือของเขาก็ลูบๆ วนๆ อยู่แถวสะโพก
“จะบ้าหรือไง...” ผมศอกกลับเขาเบาๆ
“ใส่แบบนี้เหมือนไม่ได้ใส่อะไรเลย?”
เขาเปลี่ยนความสนใจไปที่ช่วงล่างผมแทน พอเลิกชายเสื้อยืดที่ยาวจนคลุมก้นขึ้น
ที่ข้างใต้นั้นก็เพียงกางเกงในบ็อกเซอร์ฟิตเปรี๊ยะอยู่ตัวเดียว(ฮา...)
“เซ็กซี่มะ?” ผมถามขำๆ
แกล้งแอ่นก้นให้เขาดูอีก ก็เลยถูกอีกฝ่ายใช้มือฟาดจนเสียงดังเพี้ยะ
สงสัยจะหมั่นเขี้ยว ฮ่ะๆๆ เอาจริงๆ ก็ไม่ได้ตั้งใจจะมาเซ็กซี่อะไรหรอก
แต่เพราะผมไม่ได้เตรียมเสื้อผ้ามาเปลี่ยนเลย(ก็ไม่รู้ตัวมาก่อนนี่นาว่าจะได้ค้างคืนข้างนอก)
ชุดที่ใส่มาเมื่อวานก็ไปอยู่ไหนแล้วไม่รู้(สงสัยฟ้าเก็บไป) ก็เลยเหลือแต่ตัวเปล่าๆ
ส่วนกางเกงในนี่ก็ของฟ้าอีกนั่นแหล่ะ ยืมเขาใส่ตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว
(แต่ก็แอบผิดคาดนิดหน่อยที่เขามีกางเกงในสีอื่นนอกจากสีขาวนะ(ที่ผมใส่นี่เป็นสีเทา))
“เจ็บนา...” ผมบ่นอุบอิบ
แซนด์วิชในกระทะได้ที่พอดี ผมเลยบอกให้ฟ้าไปหยิบจานมาใส่
“เป็นไง?”
ผมติดตามผลหลังจากเขาหยิบเอาอันนึงไปกัดคำโต
“อื้มม” เพราะปากยังเต็ม
ฟ้าเลยยกนิ้วโป้งให้แทนคำตอบ
ผมยิ้มกว้างอย่างโล่งใจ ซินกับฟ้านี่ท่าจะชอบอะไรเหมือนกันจริงๆ
แต่ดันไม่ชอบขี้หน้ากันเองซะงั้น ฮ่ะๆๆ
พอหาของกินให้ฟ้าเสร็จแล้ว ผมก็มาหาของกินให้ตัวเอง ผมเทผัก เททูน่า
เทน้ำสลัด จากนั้นก็คนๆๆๆ ชิมนิดนึง... อืม ใช้ได้
แล้วก็อุ้มถ้วยสลัด(ที่ขนาดใกล้เคียงกะละมัง)เดินตามฟ้าไปนั่งกินหน้าทีวี
พลางดูข่าวสารบ้านเมืองไปพลาง
ติ๊ง!
มีเสียงดังอย่างกับเสียงไมโครเวฟ
แต่ผมมั่นใจว่าไม่มีใครใช้งานมันเลยนะ
[บอสฟา คุณได้รับข้อความใหม่ 2
ข้อความ]
เสียงมิสจาร์วิส(ที่ผมเรียกเอา)ดังขึ้นมาคลายความสงสัยของผมได้ทันใจ
ท่าทางว่านั่นจะเป็นเหมือนสัญญาณเตือนว่า ‘ฉันจะพูดแล้วนะ’
อะไรทำนองนั้นมั้ง
“จากใคร?” ฟ้าถามมิสจาร์วิส
“มึงปิดโทรศัพท์อีกแล้วเหรอ?”
ผมถามเขาอีกที
เพราะตอนที่เขาเปิดโทรศัพท์ เขาจะสั่งงานโปรแกรมที่คอยดูแลบ้านหลังนี้(ก็มิสจาร์วิสที่ผมเรียกเอาเองนั่นล่ะ)ผ่านทางโทรศัพท์เขา
ผมจึงไม่ได้ยินเสียงของเธออีกเลยหลังจากเข้าบ้านมา แต่พอเขาปิดโทรศัพท์
เขาก็คงเปิดระบบรับคำสั่งทางเสียงล่ะมั้ง น่าประทับใจก็ตรงที่เธอรับส่งข้อความแทนโทรศัพท์ได้ด้วยนี่ล่ะ
“อือ ไม่อยากถูกรบกวนน่ะ”
[จาก มานะ 2 ข้อความ]
“อ่านให้ฟังหน่อย”
[รับทราบ]
ว่าง่ายจริงแม่คุณ ผมนึกขำๆ ในใจ พลางตักสลัดเข้าปาก
[1 ข้อความ จาก มานะ; ทางนี้เรียบร้อยดี
ปู่จอร์จหัวเสียนิดหน่อย แต่ยังอยู่ในระดับปลอดภัย ปล.
ขอให้แฮปปี้กับฮันนี่มูนนะบอส อิอิ]
ผมหลุดหัวเราะพรืดกับเสียง ‘อิอิ’ ที่มิสจาร์วิสอ่านด้วยเสียงไร้อารมณ์
[1 ข้อความ จาก มานะ; ถึง ซันนี่ คุณพี่ชายร่าเริงดี
ไม่ต้องเป็นห่วง]
“ไหงงั้น...” ผมพึมพำกับตัวเอง
นึกว่ามันจะหัวเสียกว่านี้ซะอีก แค่คืนเดียวมึงก็ลืมกูไปแล้วเหรอ
ซินเซียร์?
“ขอบคุณ มานี”
[ยินดีค่ะ]
“มานี!?” ผมหันขวับไปทำตาโตมองเขา
“อ่อ เพราะเป็นน้องสาวมานะ ก็เลยเรียก ‘มานี’ ” ฟ้าบอกเนิบๆ
“น้องสาวมานะ?”
“อือ เพราะเมรันดรีเป็นคนบันทึกคำสั่งต่างๆ สำหรับดูแลบ้านหลังนี้แบบอัตโนมัติลงในโปรแกรมน่ะ
มานีก็เลยเป็นเหมือนกับลูกสาวอีกคนของเขา”
ผมพยักหน้าเข้าใจ แต่ ‘มานี’ เนี่ยนะ? ก็คิดกันได้ ฮ่ะๆๆ
โปรดติดตามตอนต่อไป.......