วันศุกร์ที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2559

[นิยาย] MADAME MAFIA chapter 8.2







MADAME   MAFIA







chapter 8.2






“..นี่ ...ซันนี่!

ผมรู้สึกเหมือนถูกตบ...

ไม่ ไม่ใช่แค่ รู้สึก ผมกำลังถูกตบจริงๆ และมันก็เจ็บชะมัด

“ซันนี่!?

ลืมตาขึ้นมาผมก็เห็นหน้ากังวลของฟ้ากำลังก้มอยู่เหนือหน้าตัวเอง

“ฟ้า...”

“รู้สึกตัวแล้ว! ซันนี่...”  ฟ้าดึงผมเข้าไปกอดอย่างโล่งใจ

“เจ็บๆๆๆ” 

ผมร้องออกมาเป็นชุดเพราะรู้สึกเจ็บระบมช่วงซี่โครงด้านซ้ายไปหมด

“ตรงไหน?”  ฟ้ารีบปล่อยผม แล้วสำรวจร่างกายผม

“อืออ...”  ผมลูบแถวซี่โครงด้านซ้ายบอกตำแหน่ง


สรุปว่าระหว่างต่อสู้แย่งปืนกับคนร้ายเมื่อกี๊ ปืนมันลั่นใส่ผม แต่เพราะว่าใส่เสื้อเกราะไว้ข้างใน ผมเลยไม่ตาย แต่แรงอัดของลูกปืนก็ทำเอาจุกจนสลบไปครู่หนึ่ง ฟ้าที่ตามมาทันตอนผมถูกยิงพอดีเป็นคนจัดการคนร้าย(เสียงปืนนัดที่สองที่ผมได้ยินก่อนสลบเป็นฝีมือของฟ้าเอง) แต่เขาบอกว่าไม่ได้ฆ่ามันหรอก

มาร์กี้ที่ตามมาทีหลังลากมันไปมัดรวมไว้กับคนร้ายที่จับได้อีกคนแล้ว  

“ซิน!?” 

ผมนึกได้ว่ากำลังไล่ตามซินอยู่จึงรีบผุดลุกขึ้น ไม่รู้ว่าป่านนี้ซินเตลิดไปถึงไหนแล้ว ผมต้องรีบตามหาซินให้เจอก่อนจะถูกจับไปอีก

“ไม่ต้องไปไหนแล้ว” 

แต่ฟ้ากลับบอกให้ผมทำตรงกันข้าม ผมมองเขาอย่างไม่เข้าใจ

“กูจะไม่ให้มึงทะเล่อทะล่าไปถูกใครยิงอีกแล้ว ซันนี่ รออยู่นี่แหล่ะ”

เขาพูดอย่างหงุดหงิด ผมเม้มปากเพราะเถียงไม่ออก ผมรู้ว่าผมสร้างปัญหาให้พวกเขา แต่ผมไม่ได้ตั้งใจให้เป็นเป็นแบบนี้นี่ ผมก็แค่อยากจะช่วยซิน 

“ฟรังโก้ เฝ้าเขาไว้ ที่เหลือตามมา”

แล้วฟ้าก็ออกไปกับมาร์กี้และการ์ดอีกคน ทิ้งผมไว้กับการ์ดชื่อ ฟรังโก้

“ฉันเนี่ย คงเป็นตัวถ่วงมากเลยสินะ” 

พอเขาไปกันหมด ผมก็ไม่รู้จะทำอะไร เลยได้แต่นั่งถอนหญ้าข้างตัวแก้เซ็ง

“ก็ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับ”  หมอนั่นตอบมาเหมือนเกรงใจ

ใช่สิ ใครจะกล้าตำหนิเพื่อนบอสตรงๆ ล่ะ ...นอกจากไอ้มาร์กี้

“ไม่ต้องปลอบใจฉันหรอก ฉันรู้ตัว” 

“แต่คุณก็เอาตัวรอดเก่งกว่าที่ผมคิดนะ”

“หมายความว่าไง?”

“ก็คุณ..คือผมหมายถึง คุณดูสำอางนิดหน่อย เลยไม่คิดว่าคุณจะสู้เป็น”

“เห็นแบบนี้ฉันก็เคยเป็นแชมป์คาราเต้ระดับเยาวชนนะ”

ผมงัดเรื่องเก่าแก่สมัยพระเจ้าเหาขึ้นมาคุย(แค่คุย ไม่ได้โม้ เพราะเรื่องจริง)

“งั้นผมเดาว่าเมื่อกี๊คุณคงไม่มีโอกาสได้ใช้วิชาเท่าไหร่”

“ฉันไม่ถนัดสู้ท่านอน”

“อา นั่นเป็นปัญหาของพวกที่ฝึกมวยยืนอย่างเดียวเลย ถ้าล้มก็จบ”

“เออ จบเห่”

ผมหัวเราะสมเพชความไร้กากของตัวเอง เฮ้อ...

เหมือนไม่ค่อยได้ยินเสียงปืนแล้วนะ  ผมเพิ่งสังเกต

ครับ ตอนนี้ทางหน่วยมาโคเข้าควบคุมสถานการณ์ในคฤหาสน์ร้างได้แล้วส่วนหน่วยลาซโลก็ใกล้เคลียร์เหมือนกัน...

“แล้วเสียงระเบิดก่อนหน้านี้ล่ะ?”

“ยังไม่ได้รับรายงานครับ”

ปังงง!!

ผมหันไปมองเสียงปืนที่ดังมาจากด้านหลัง ซึ่งเป็นทางเดียวกับที่ฟ้าเพิ่งไป

“ฟ้า!

“คุณ! อย่าเพิ่ง...”

ผมไม่ได้อยู่ฟังเสียงคัดค้านของฟรังโก้ ผมออกวิ่งไปตามทิศทางที่แน่ใจว่าได้ยิงเสียงปืน ขณะที่มือก็ชักปืนพกของตัวเองมาขึ้นนกเตรียมพร้อม

“ทางไหน...”

แต่วิ่งมาสักพักก็เริ่มสับสน ไม่แน่ใจว่าตัวเองมาถูกทาง เพราะจนป่านนี้ผมก็ยังไม่เจอใครเลยทั้งที่วิ่งมาไกลพอสมควร ...หรือผมจะมาผิดทางจริงๆ?

หรือทิศที่ผมคิดว่าใช่ ความจริงแล้วเป็นแค่ทิศของเสียงสะท้อน?

ให้ตายสิ อย่างไหนแน่ แล้วตอนนี้ผมอยู่ที่ไหนแล้ว? จะกลับไปก็กลับไม่ถูก อุปกรณ์ GPS ก็ไม่มีติดตัวมาด้วย ซวยของจริงล่ะที่นี้ ซันชายน์...

...?!!

เป็นครั้งที่สองที่ผมถูกกระโจนใส่จนล้มกลิ้งไปกับป่า

Fuck..!!”  ผมสบถหัวเสีย

อย่าคิดว่าคราวนี้ผมจะพลาดเหมือนครั้งที่แล้ว!

ผมพลิกตัวขึ้นมาด้านบน ใช้มือหนึ่งบีบลูกกระเดือกซึ่งเป็นจุดตายของมันไว้ อีกมือถือปืนกดปากกระบอกไปที่หัวของมัน

“..ซัน...ซัน.นี่...?”

เอ๊ะ... 

“ซิน...?”  ผมลองเรียกอย่างไม่แน่ใจ

เพราะไม่มีแว่นอินฟาเรด และจุดนี้ก็มืดสนิทมาก ผมไม่เห็นหน้าของอีกคน

“ซัน.นี่...จริง..ด้ว.ย...”

“ซิน!

ผมรีบปล่อยมือจากคอของอีกฝ่าย แล้วกอดมันไว้ ทั้งดีใจ ทั้งโล่งใจ

ในที่สุดผมก็หาซินเจอ!

ในที่สุด...

“ซันนี่...แค่กๆๆ...”  ซินไออยู่พักนึงถึงพูดต่อได้  

“ตามมาช่วยกูเหรอ...”

“อื้อ..อื้อ...” 

ผมไม่สามารถตอบเป็นเสียงอื่นได้ เพราะกำลังพยายามกลั้นเสียงร้องของตัวเองไว้ จึงทำได้เพียงพยักหน้ากับไหล่อีกฝ่ายทั้งน้ำตา

ในที่สุด... ซิน...

ผมกอดฝาแฝดตัวเองไว้แน่นด้วยแรงทั้งหมดที่มี ซิน...

“ขอบใจนะ... คงจะเป็นห่วงมากเลยสิ...”

ซินยกมือกอดตอบผม ลูบหลังลูบไหล่ผมไปมา เสียงของมันฟังดูอ่อนแรง คงเป้นเพราะต้องสู้คนเดียวมาตลอดหลายชั่วโมงนี้

“อื้อ.อ....ฮึก...”

“ฮ่ะๆๆ อย่าร้องน่า”

“กู..เปล่า...”  ผมปฏิเสธน้ำตานองหน้า

“ซันนี่...ขอโทษนะ...”

“.......”

“กูเกือบตัดใจ...ที่จะกลับไปหามึงแล้ว...”

“ไม่ให้อภัย...” 

ถ้ามันไม่กลับมาหาผม ผมจะไม่มีวันให้อภัยมันแน่

“ฮ่ะๆๆ นึกแล้วเชียวว่าต้องพูดแบบนี้...ซันนี่ของพี่...ฮึก...”

ซินกอดผมแน่นขึ้น เสียงสะอื้นฮักของมันทำผมน้ำตาไหลอีกรอบ

“กูกลัวแทบตายว่าจะไม่ได้เจอมึงอีก...” 

ในที่สุดซินก็ยอมเผยความรู้สึกจริงๆ ออกมา

“ฮึก...เหมือนกัน...”

“มึงอย่าร้องดิ”

“มึงแหล่ะอย่าร้อง”

เราเถียงกัน เกี่ยงกันไปมา แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่มีใครหยุดน้ำตาของความดีใจที่ได้กลับมาพบกันอีกครั้งได้...

เพียงแค่ช่วงเวลาไม่กี่วัน แต่ผมกลับรู้สึกว่ามันนานมาก...

นานจริงๆ ที่ไม่ได้เจอซิน




จนกระทั่งผ่านไปสักพัก กว่าพวกเราจะสงบสติอารมณ์ลงได้

“มึงบาดเจ็บตรงไหนบ้างหรือเปล่า?” 

ผมสำรวจเนื้อตัวซินทั้งที่มองแทบไม่เห็น

“นอกจากระบมก็ไม่มีอะไรร้ายแรง”

“พวกมันซ้อมมึงเหรอ?” 

ผมนึกถึงรูปถ่ายก่อนหน้านี้ที่ฟ้าเอาให้ดู

“ไม่เชิง... เรียกว่า สู้กัน ดีกว่า ถ้าอยู่เฉยๆ ว่าง่ายๆ อย่างที่มันบอก ก็อาจจะไม่เจ็บตัว แต่มึงก็รู้จักนิสัยกูใช่ไหม? กูอยู่เฉยๆ โดยไม่สู้ไม่ได้หรอก”

“แต่แบบนั้นมันจะทำให้มึงเจ็บ...”

“ก็แค่เจ็บ แต่ไม่ตาย”

“แต่มึงอาจจะตายก็ได้นี่”  ผมไม่พอใจ

“โอเค ขอโทษ สัญญาว่าจะไม่ทำอีก”  ซินพูดอย่างยอมแพ้

“สาบาน”  ผมยื่นคำขาด

“ก็ได้ๆ สาบานๆ”

ถึงจะพูดแบบนั้น แต่ตามนิสัยของซินต้องแอบเอานิ้วไขว้หลังไว้แน่ แต่ครั้งนี้ผมจะทำเป็นรู้ไม่ทันก็แล้วกัน แค่ได้ซินคืนมาอย่างปลอดภัยผมก็ดีใจมากแล้ว

“แล้วเราจะรออยู่ที่นี่เหรอ? หรือจะไปต่อ?”  ซินเปลี่ยนเรื่อง

“คงต้องรอ... ให้เดินดุ่มๆ ไปเรื่อยคงไม่ดีแน่”

ผมพลาดมาแล้วสองครั้ง เลยไม่อยากจะให้ผิดพลาดอีก

“เดินไปเรื่อย? หมายความว่าไง? มึงไม่รู้ทางเหรอ?”

“เออ กูหลง”  ผมสารภาพ 

“แล้วกัน... นี่ไอ้กุ้งฝอยมันไปไหนล่ะ ทำไมถึงปล่อยให้มึงมาเดินหลงอยู่คนเดียวในที่อันตรายแบบนี้?”  เสียงซินออกแนวตำหนิมากกว่าอยากรู้

ที่จริงกูถูกสั่งให้รออยู่เฉยๆ ด้วยซ้ำ แต่เพราะได้ยินเสียงปืน กูห่วงว่าฟ้าจะเป็นอะไร ก็เลยวิ่งตามมาดู ...แต่ดูเหมือนจะมาผิดทาง”  ผมพูดอ้อมแอ้ม

อ้อ ที่จริงไม่ได้ตั้งใจจะมาหาพี่ แต่จะมาหาแฟน?”

มึงอย่าพูดแบบนั้นดิ”  ผมหน้างอ

“ความจริง... ฟ้ากำลังจะเสี่ยงไปเจรจาขอให้ปล่อยตัวมึงเลย แต่ได้ข่าวว่ามึงหนีออกมาก่อน เราก็เลยต้องเปลี่ยนแผนมาค้นหามึงแทน” 

ผมอยากเล่าให้ฟัง เผื่อว่าซินจะรู้สึกดีๆ กับฟ้าขึ้นมาบ้าง

“เพราะงั้นกูถึงต้องออกมา...”

คำพูดของซินทำให้ผมประหลาดใจ  “หมายความว่าไง?”

“กูได้คุยกับหัวหน้ามันนิดหน่อย...”

“ฮาร์รี่?”

“มึงรู้จัก?”

“คนของฟ้าหาข้อมูลก่อนที่เราจะมาที่นี่”

“อ้อ... อืม ไอ้นั่นแหล่ะ ดูเหมือนมันมีเรื่องให้แค้นฟ้าประทานน่าดู”

“ได้ยินมาเหมือนกัน ถึงเจ้าตัวจะจำไม่ได้ว่าเคยไปทำอะไรใครไว้ก็เหอะ”

“มันจำไม่ได้เหรอ?”  ซินดูแปลกใจเหมือนไปรู้อะไรมา

“อือ ฟ้าบอกว่าไม่เคยได้ยินชื่อผู้ชายอเมริกันคนนั้นมาก่อนเลย”

“เหมือนมันจะเคยเป็นอิตาเลียนมาก่อนนะ”

“จริงเหรอ?”

“อือ มันบอกว่ามันจะคิดบัญชีที่ฟ้าประทานเคยติดค้างมันไว้คืนนี้ เสร็จแล้วมันก็จะยอมปล่อยกู กูก็ไม่รู้ว่าเรื่องหลังมันพูดจริงหรือเปล่า แต่เรื่องแรกมันเอาจริงแน่ ถ้าฟ้าประทานก้าวเข้าไปในบ้านหลังนั้น มันคงจะไม่มีโอกาสได้กลับออกมาอีก ต่อให้พวกมึงจะวางแผนกันมาดีแค่ไหนก็เหอะ แต่ไอ้บ้านั่นมันถึงขั้นจะยอมตายไปพร้อมกับฟ้าประทานเลยนะ มันดูไม่เสียดายชีวิตเลย ขอแค่จัดการแฟนมึงให้ได้...”

มันแค้นฟ้าขนาดนั้นเลย? นี่ฟ้าเคยไปหักอกมันหรือไง?

“มึงก็เลยหนีออกมา... เพื่อฟ้าเหรอ?” 

เป็นเหตุผลที่ผมไม่เคยคิดมาก่อนเลยจริงๆ

ซิน... มึงมันเทวดามาเกิดชัดๆ

“อย่าพูดให้ขนลุกหน่อยเลยน่า”

ซินตบความประทับใจของผมทิ้งไปแบบไม่ใยดี

“กูไม่สนหรอกว่าไอ้กุ้งฝอยมันจะเป็นหรือตาย ..แต่ถ้ามันตาย แล้วน้องชายคนเดียวของกูต้องจมอยู่กับความเสียใจไปตลอดชีวิต มึงคิดว่ากูจะทนดูได้หรือไง?”

“ซิน!” 

ผมโผเข้าไปกอดซินไว้ด้วยความซาบซึ้งจากก้นบึ้งของหัวใจ

ทั้งหมดไม่ใช่เพื่อใคร แต่เพื่อผม!

“โอยๆๆ แค่นี้กูก็ระบบไปทั้งตัวแล้วนะ”

ได้ยินแบบนั้นผมก็รีบปล่อยมันทันที กลัวมันจะช้ำไปมากกว่านี้

“ขอบคุณ”  ผมพูดจากใจ

“ถ้ารู้สึกขอบคุณกูจริงๆ ก็อย่าเพิ่งเขี่ยกูลงจากที่หนึ่งใจในมึงซะล่ะ”

“น้ำเน่าว่ะ”

“มึงจะเออออโดยไม่ท้วงไม่ได้หรือไงวะ?”

“ฮ่ะๆๆ มึงจะเป็นที่หนึ่งในใจกูตลอดไป ซินเซียร์”

แม้คำขอของซินจะฟังน้ำเน่าไปหน่อย แต่ผมก็พร้อมที่จะตอบรับมัน

“ขอให้จริง...”

“กูพูดจริงๆ นะ”  ผมเขย่าแขนคนที่ดูจะไม่เชื่อใจกันเท่าไหร่

“ซินนน มึงไม่เชื่อใจกูแล้วเหรอ?”

“ฮ่ะๆๆ เชื่อก็ได้ๆ”

เจอลูกอ้อนเข้าซินก็แอ๊บต่อไปไม่ไหว ยอมใจอ่อนให้ผมเหมือนทุกที

ปังๆๆๆๆๆ !!

เสียงปืนที่ดังใกล้ๆ ทำให้ฉากสวีทของพี่น้องต้องจบลงแต่เพียงเท่านี้

ผมกับซินรีบสไลด์ตัวเข้าไปหมอบหลบในพุ่มไม้ตามสัญชาตญาณ

เราเห็นเงาตะคุ่มๆ ของใครบางคนกำลังวิ่งมาทางนี้ จากนั้นก็มีปืนดังไล่หลังเขามาอีกสองนัดติด เงานั้นหยุดหลบหลังต้นไม้ที่ห่างจากจุดซ่อนตัวของพวกเราไปเพียงไม่กี่ก้าว ก่อนที่เขาจะตัดสินใจยิงสวนอีกฝ่ายกลับไปบ้าง

ปัง!! ปัง!!

ประกายไฟสว่างวาบจากปลายปืนช่วยส่องให้ผมเห็นเสี้ยวหน้าของคนยิง แม้จะเพียงแว้บเดียวแต่ผมก็จำได้ดี

“ฟ้...!?

ซินเอามือมาตะปบปากก่อนที่เสียงผมจะเล็ดลอดออกไป

ฟ้าประทาน!!

ทำไมเขาถึงมาอยู่คนเดียว? แล้วทำไมถึงถูกไล่ตาม? แล้วบอดีการ์ดของเขาไปไหนหมด!? ไอ้เด็กเปรตมาร์กี้ล่ะ? ...ในสมองผมมีคำถามมากมายเต็มไปหมด

“ออกมาเถอะน่า บอสฟา แกจะกลัวอะไรฉันนักหนา”

คนที่ไล่ต้อนฟ้ามาตะโกนพูดด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ยถากถาง

ผมละคันปากอยากจะเถียงแทนจริงๆ เลยว่า เขาไม่ได้กลัวแก! แต่ใครมันจะโง่เดินออกไปให้ถูกยิงกันล่ะ ไอ้ควาย! ว่าแต่มันเป็นใครวะ? ไม่ถูกชะตาเอาซะเลย

“ฮาร์รี่”  คำตอบของซินทำผมกระจ่างใจ

อ๋อ ไอ้ห่ารากนี่เองที่บังอาจจับพี่ชายคนสำคัญของผมไป แถมตอนนี้ยังมาไล่ยิงแฟนสุดที่รักของผมอีก เดี๋ยวมึง เดี๋ยวรู้เลย... ผมกระชับปืนในมือพร้อมเล็ง ถึงจะยังไม่เห็นตัวมัน แต่ผมก็เล็งไปทางที่คิดว่ามันน่าจะโผล่มาไว้ก่อน

ขณะที่เงาของฟ้าหลบนิ่งอยู่หลังต้นไม้คล้ายกำลังเงี่ยหูฟังความเคลื่อนไหว

“บอสฟาา~ แกไม่อยากรู้บ้างเหรอว่าที่ฉันลงทุนทำไปทั้งหมดนี่เพื่ออะไร? เดิมทีฉันตั้งใจจะเซ็ตฉากให้เหมือนกับคืนนั้นเมื่อแปดปีก่อนอยู่หรอก อุตส่าห์ได้กลับมาบ้านเกิดทั้งที คิดถึงบรรยากาศเก่าๆ ชะมัด แต่กระต่ายน้อยที่จะใช้ในพิธีบูชายัญดันกระโดดหนีไปซะได้ ก็เลยต้องเปลี่ยนแผนนิดหน่อย อ้อ แล้วฉันก็ชื่อ ฮาร์รี่...ฮาร์รี่ โจฮันสัน ลูกน้องแกคงบอกมาแบบนั้นสินะ ฮ่ะๆๆ แต่ก่อนหน้านี้จนถึงเมื่อแปดปีที่แล้ว ฉันมีอีกชื่อหนึ่งว่ะ ฉันชื่อ ดันเต้ แต่แกก็คงจะยังไม่คุ้นอยู่ดีใช่ไหม? งั้นถ้าฉันบอกว่าฉันนามสกุล ซากาเรีย ล่ะ? พอจะไปสะกิดอะไรในใจแกได้บ้างหรือเปล่า?”

ซากาเรีย? ไม่ใช่ชื่อเดียวกับคฤหาสน์ร้างที่ใช้เป็นจุดนัดพบหรอกเหรอ?

หมอนี่เป็นใครกันแน่??

“บอสฟา! แกจะมุดหัวอยู่ในรูไปถึงเมื่อไหร่ ออกมาสิวะ ไอ้ขี้ขลาด!

ไอ้ฮาร์รี่ หรือดันเต้ หรืออะไรก็ช่างแม่ง แต่มันเริ่มจะหมดความอดทนแล้ว

ปังๆๆๆๆ !!!

แถมยังใช้ของหนักอย่างปืนกล ยิงรัวใส่ต้นไม้ที่ฟ้าใช้เป็นที่กำบังโดยไม่สนใจว่าจะโดนหรือไม่ ขอแค่ให้ได้สะใจก็พอ

“ไอ้สารเลว! ลูกกระหรี่เอ๊ย! ฉันจะยิงแกให้พรุนเลย”

ปังๆๆๆๆๆ !!!

ฟ้าย่อตัวต่ำลง แล้วกลิ้งหนีไปยังต้นไม้อีกต้น ถึงตอนนี้ผมเริ่มเห็นเงาลางๆ ของศัตรูแล้ว ผมเล็งปืนไปที่มัน กะว่าเห็นชัดๆ เมื่อไหร่จะลั่นไกทันที

ผมจะยิงมันเหรอ... เอ่อ ก็ใช่ ผมตั้งใจจะหยุดมันก่อนที่ฟ้าจะพลาด

แต่ผมก็หวังว่าผมจะไม่ได้ฆ่ามัน

“ไอ้บอสฟาาาาา!!!

ปัง! ปัง!!

ฟ้ายิงสวนออกไป และดูเหมือนนัดนึงจะไปโดนบางอย่างที่มีเสียงคล้ายเหล็ก บางทีอาจเป็นปืนของฮาร์รี่ ผมได้ยินมันสบถด้วย แต่ไม่น่าจะบาดเจ็บ

“สันดานเอ๊ย!!

ปังๆๆๆๆๆ !!!

ฟ้าถอยล่นลงไปอีก ทำให้ฮาร์รี่เดินมาให้ผมเห็นชัดขึ้น

หือ... ผมหันไปมองซินที่มาสะกิดไหล่

มันชี้ผม ชี้ปืนในมือผม แล้วชี้ไปที่ฮาร์รี่ จากนั้นก็ชี้ตัวเอง แล้วชี้ไปทางขวามือ... หมายความว่าไง? มันจะให้ผมยิงฮาร์รี่ แล้วตัวเองจะอ้อมไปตลบหลังหมอนั่นเหรอ? เสี่ยงไปหรือเปล่าซิน? แล้วถ้าเกิดกูยิงไม่โดนขึ้นมาล่ะ?

“ซิน...!

ไม่ทันแล้ว ไอ้บ้านั่นคลานแบบทหารราบไปตามที่ตัวเองตั้งใจแล้ว ผมไม่เหลือทางเลือกอะไรนอกจากจะต้องยิงไอ้ห่ารี่สินะ...

“ไอ้บอสฟาาา!!!

ปังๆๆๆๆๆๆๆ !!!

เอาวะ! ก่อนที่ฟ้าจะพรุนเป็นกระเพาะปลาเพราะปืนกลของไอ้ห่านั่นไปซะก่อน ผมคงมีแต่จะต้องรีบลงมือเท่านั้น ผมตัดสินใจแล้วยื่นปืนเล็งไปที่เป้าหมาย เอาเป้าใหญ่ๆ อย่างลำตัวนี่ล่ะเพื่อความชัวร์ ใจนึงก็ขอให้โดน อีกใจก็ของให้อย่าโดนจุดสำคัญเลย มือกระชับด้ามปืนมั่น ตั้งสมาธิไปที่ศูนย์เล็ง

“.......”  ผมเหลือบมองซินไปที่อยู่ในจุดเหมาะๆ แล้ว

จากนั้นก็ลั่นไก...

ปัง!

“อั้ก...”  ยิงถูก!

แต่มันไม่ล้ม แถมยังหันปืนมากราดยิงใส่ทางผมพร้อมสบถสาปแช่งไปด้วย  

ปังๆๆๆๆๆๆ !!!

ผมรีบม้วนตัวกลิ้งหลบไปอยู่หลังต้นไม้ด้วยใจระทึก

ปัง!!

เสียงปืนนัดนี้มาจากทางฟ้า แล้วก็ดูเหมือนว่าจะยิงถูกอีกฝ่ายด้วย

“บอสฟา ไอ้หมาลอบกัด!

ฮาร์รี่ยังไม่ยอมล้ม(ผมสงสัยว่ามันจะใส่เสื้อเกราะหรือเปล่า?) มันหันกลับไปหาฟ้า แต่ยังไม่ทันจะได้ลั่นไกซินก็พุ่งออกจากที่ซ่อนซึ่งฮาร์รี่หันหลังให้พอดี เพียงแค่สองก้าว(ยาวๆ)หมอนั่นก็ถึงตัวฮาร์รี่ โดยมีผมกระโจนตามไปติดๆ

Fuck..!!”

ซินกระโดดตะครุบฮาร์รี่ได้ ส่วนผมก็สไลด์เท้าถีบปืนของมันออกไปให้พ้นมือก่อน แล้วเข้าไปช่วยซินรุมสะกำ ไม่ ช่วยกันจับมันกดกับพื้นไม่ให้หนีได้ แต่หมอนั่นก็ดิ้นสุดฤทธิ์ แถมยังถึกอย่างกับแรด แต่ทางผมก็มีแรดอยู่ตัวนึงเหมือนกัน(ซินไง) เลยสามารถจับมันล็อคคอล็อคแขนได้ในที่สุด

!? ”

จังหวะเดียวกับที่มีคนส่องไฟฉายมาทางเราพอดี

ไม่ได้มาแค่ไฟฉาย ปลายกระบอกปืนก็มาด้วย พ่อมึง!

“ฮาร์รี่!  หนึ่งในสองคนที่โผล่มาส่งเสียงตกใจ

ซวยเช็ดเม็ด เสือกเป็นคนของมันอีก!

“โดเมนิค..? จัดการ..พวก.มัน...!”   

“ก็ลองดู”  ผมกดปากกระบอกปืนไปที่ขมับของไอ้ห่ารี่

แต่ไอ้ชาติชั่วโดมินิกันอะไรนั่นเสือกกดปากกระบอกปืนของมันไปที่หัวของซินซึ่งนั่งอยู่บนตัวฮาร์รี่อีกที แม่ง! ทีนี้ก็เหลือปืนว่างอีกกระบอก

ไม่ต้องสงสัยเลยว่ายังไงมันก็ต้องเล็งมาที่หัวของผม

“อย่าขยับ...” 

แต่หมอนั่นยกปืนขึ้นมาได้แค่ครึ่งทางก็ต้องชะงักเพราะเสียงของฟ้าซึ่งออก
จากที่ซ่อนพร้อมเล็งปืนไปยังหัวของของมัน เขาค่อยก้าวเข้ามาอย่างระมัดระวังที่สุด ขณะที่มือก็ถือปืนเล็งนิ่งไม่มีวอกแวก

“ไอ้บอสฟา...”  ฮาร์รี่กัดฟันกรอดทันทีที่เห็นฟ้า

“มารี ยิงมัน! ไม่ต้องสนฉัน ฆ่ามันซะ!

“โทษที...”  ผมได้ยินไอ้คนชื่อ มารี พึมพำ

ก่อนที่มันจะหันไปลั่นไกใส่เพื่อนอีกคนจนล้มลงไป

ปังงง!!

“โดเมนิค!!!  ไอ้ฮาร์รี่กรีดร้อง

ผมกับซินแม้จะช็อค แต่ก็ยังจับตัวมันเอาไว้แน่น

“แก! แกทรยศ! ฮาร์รี่พยายามสะบัดพวกผมออกแล้วกระโจนไปหามารี

“ฮื่อ ก็คงงั้น...”  คนพูดดึงหมวกไอ้โม่งออก

เผยให้เห็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยหนวดเคราจนแทบไม่มีที่ว่าง(นี่มันหมีชัดๆ) แต่แววตาแบบนั้นอย่างกับจะเคยเห็นที่ไหนมาก่อน...

“มาริโอ คาวัวร์”

ฟ้าพูดแล้วลดปืนลง อีกฝ่ายค้อมหัวให้เขาน้อยๆ เป็นการทักทาย

“เป็นครั้งแรกที่ผมได้พบคุณในฐานะ บอส ของพวกเราสินะ คุณหนู”

...!?

“คาวัวร์... แกเป็นคนของแบร์ลุสโคนีตั้งแต่แรก! แก.. แกมันไอ้สารเลว!

“โทษทีนะ ดันเต้ ถ้าคุณเชื่อคำเตือนของผมแต่แรก เราคงไม่ต้องลงเอยแบบนี้” 

มาริโอ คาวัวร์ หันไปพูดกับฮาร์รี่ด้วยท่าทางเห็นใจ

“ฉันจะฆ่าแก!!  ฮาร์รี่ดิ้นขลุกขลักโยมีซินนั่งทับอยู่

“อย่างกะเคยได้ยินที่ไหนมาก่อน?”  ซินหันมาพูดกับผมอย่างครุ่นคิด

“มึงจำไม่ได้เหรอ?”  ผมถามมัน

“มึงรู้จักพี่หนวดนี่ด้วยเหรอ?”

“เออ รู้จักดีเลยล่ะ”  ผมกัดฟันพูด มองคนที่เป็นหัวข้อด้วยสายตาแค้นเคือง

มาริโอ คาวัวร์ คนที่ทำให้ซินต้องเกือบตายเมื่อสี่ปีที่แล้ว

“ไม่ได้เจอกันนานนะครับ คุณซันนี่ คุณพี่ชาย”  เขาหันมาทักทายเรา

“ไปตายซะ”  ผมไล่แถมชูนิ้วกลางให้

“เฮ้ย ซันนี่ ไมทำงั้นเล่า! เขาช่วยเราเอาไว้นะ”  ซินดุผมเบาๆ

“มึงจำคนที่เคยคิดจะฆ่ามึงไม่ได้เหรอ ซิน?”  ผมถามอย่างหงุดหงิด

“หืม เคยมีคนคิดจะฆ่าคนอย่างกูด้วยเหรอ?”  หมอนั่นเกาแก้มงงๆ

“บอส! อยู่ทางนี้จริงๆ ด้วย!  ไอ้มาร์กี้เพิ่งจะวิ่งกระหืดกระหอบมา

หายหัวไปไหนมาวะ? ไม่รอให้บอสมึงพรุนเป็นกระเพาะปลาไปก่อนล่ะ!

“บอส!  มานะกับลาซโล่ก็โผล่มาจากอีกทาง

ทีงี้ล่ะผุดมาเป็นดอกเห็ด... ผมนึกพาลกับทุกคน

แต่ก็เข้าใจว่าทำไมพวกมันถึงมาช้า เพราะว่าป่าแถวนี้ค่อนข้างหนาทึบมาก ทำให้เสียงปืนก้องสะท้อนไปมา จนยากจะบอกได้ว่ามาจากทางไหนแน่ ที่ผมหลงทางตอนแรกก็เพราะว่าสับสนเสียงพวกนั้นเสียงแหล่ะ

“ซินเซียร์? ...แล้วหมอนั่นมัน ..ฮาร์รี่?”

“โย่”  ซินทักทายมานะ

“ท่าทางดูแข็งแรงดีนี่”  มานะพูดยิ้มๆ

“ฟิตปั๋งเลยล่ะ”  ซินยังเบ่งกล้ามให้ดูอีก

มานะผงกหัวให้มาริโอ ก่อนหันไปพยักหน้าให้ลูกน้องเข้ามาเอาตัวฮาร์รี่ไป

“ซันนี่...”  ฟ้ายื่นมือมาให้ผมจับเพื่อลุกขึ้น

“ขอบคุณนะ”

ผมรู้ว่าเขาขอบคุณเรื่องที่ถูกช่วยเอาไว้

“คิดว่ากูจะยอมปล่อยให้มึงเป็นอะไรไปหรือไง?”

“คราวนี้มึงติดหนี้กูนะ ไอ้กุ้งฝอย ถ้าเมื่อกี๊ไม่ได้กูไว้มึงเสร็จแน่” 

“ไม่ใช่ว่ากูมาช่วยมึงหรอกเหรอ?”  ฟ้าถามกลับมึนๆ

“เฮอะ ตัวเองยังเอาไม่รอด ริจะมาช่วยคนสุดยอดอย่างกู ยังเร็วไปสิบปีเว้ย”  

“ไม่มีตัวเกะกะอย่างมึงกูก็จัดการมันได้”  ฟ้าหายอมไม่

“พอเถอะน่า พวกมึง”  ผมผลักหน้าพวกมันออกไปคนละทาง

แล้วพูดกับฟ้า  “ฟ้า ขอบคุณซินด้วย มันช่วยมึง”

แต่ฟ้าทำหน้าแบบ...ไม่อยากจะพูดสุดๆ อ่ะ

“มา! เอาซึ้งๆ นะ กูรอฟังอยู่”  ซินเท้าเอว ยืดอก รอฟัง

“ขอบใจ...”  ฟ้ายอมพูด แต่ไม่ยอมมองหน้าคนพูดด้วย

“ไม่จริงใจ! ไม่ยอมรับ! เอาใหม่!”  ซินไม่ยอม

“มึง...”

“ฟ้า”  ผมลูบต้นแขนเขาให้ใจเย็น อยากให้ลองพูดดีๆ อีกสักครั้ง

น่า ฟ้า ตามใจซินมันสักครั้งเหอะ มันอุตส่าห์เสี่ยงตายช่วยมึงนะ ทั้งที่คืนนี้ตัวเองก็มีฐานะเป็นตัวประกันแท้ๆ แล้วที่มันหนีออกมานี่ก็เพื่อความปลอดภัยของมึงอีกนั่นแหล่ะ เพราะงั้นนะฟ้า ซึ้งน้ำใจแมนๆ ของพี่ชายกูคนนี้สักนิดเหอะ

“ขอบคุณ... ซินเซียร์”

ว้าววว ยอมเรียกชื่อด้วยอ่ะ หายากนะเนี่ย

“ฮ่าๆๆ ไม่เป็นไร ไอ้น้องชาย”  ซินชอบใจพร้อมตบไหล่ฟ้าไปหลายป้าบ

“เอ่อ.. ถ้ายังไง เราไปซึ้งกันต่อที่ฐานดีไหม?”  มานะเตือนอย่างเกรงใจ

ก่อนวินาทีถัดมาจะเกิดการชุลมุนขึ้น

เมื่อฮาร์รี่ที่คนของฟ้ากำลังคุมตัวให้เดินออกไป กลับต่อสู้ขัดขืน แล้วแย่งปืนพกจากการ์ดคนหนึ่งไปได้

“ไอ้บอสฟา!!!

เป็นเสี้ยววินาทีที่ใครก็ไม่ทันตั้งตัว หมอนั่นชี้ปืนมาทางฟ้า ที่ยืนอยู่ในระนาบเดียวกับซินพอดี ซึ่งกระสุนก็อาจจะโดนฟ้า หรืออาจจะโดนซินก็ได้ทั้งนั้น ผมไม่มีเวลามาวิเคราห์ขนาดนั้น

ปังงง !!

ก่อนจะทันรู้ตัว ร่างกายของผมก็พุ่งไปกอดคอทั้งสองคนจนล้มไปด้วยกัน

“ซันนี่!!

“อั้ก...”  ผมจับแขนตัวเองที่รู้สึกเจ็บ

เลือดข้นๆ ทะลักออกมาจากตรงนั้นจนเปียกชุ่มไปหมด เจ็บชะมัด!

“มึง...!!”  ซินเดินอาดๆ ไปหาฮาร์รี่มือปืนที่ตอนนี้ถูกการ์ดกดเอาไว้กับพื้น

“ไอ้เหี้ยเอ๊ย มึงยิงน้องกู!

ซินง้างเท้าแล้วเตะหัวหมอนั่นไปเต็มแรง คาดว่าน่าจะสลบไปตั้งแต่ทีแรก แต่ซินก็ยังพยายามจะเตะซ้ำอีกหลายครั้ง จนมาร์กี้กับลาซโลต้องช่วยกันลากออกมา

“ซันนี่ ไม่เป็นไรนะ...” 

ขณะเดียวกัน ฟ้าก็เอามีดพกของเขามาตัดแขนเสื้อผมออกเพื่อที่จะช่วย
ปฐมพยาบาลเบื้องต้นให้ มานะก็มาช่วยด้วย

“อืออ...”  ผมร้องออกมาเบาๆ ตอนที่เขาแตะโดนแผล

“โอ๊ะยะๆ มีคนบาดเจ็บด้วยเหรอเนี่ย?”

เสียงของผู้มาใหม่เรียกความสนใจได้จากทุกคน

“หมอ!

เขามาทำอะไรที่นี่? เมื่อเช้าเขาเป็นคนสุดท้ายที่อยู่กับฟ้า(หลังประชุมที่ห้องทำงาของฟ้าเสร็จ ผม ซอลลี่ สกาย ก็ออกมาก่อน) แล้วผมก็ไม่ได้เห็นเขาอีกเลยตั้งแต่ตอนนั้น ตอนที่เราย้ายมาฐานชั่วคราวที่อมาลฟี่เขาก็ไม่ได้มาด้วย

แล้วทำไมตอนนี้...? แถมยังแต่ตัวอย่างกับคนของฮาร์รี่ กางเกงลายพราง เสื้อยืดสีดำ มีผ้าพันคอ แค่ไม่ได้ใส่หมวกไอ้โม่ง กับมีกระเป๋าเป้ใบใหญ่เบิ้มเพิ่มมา  

“เคอิจัง ช่วยซันนี่ด้วย”

“ใจเย็น บ๊จจัง เขาไม่ตายเพราะแผลเล็กน้อยแค่นี้หรอก”

หมอนั่งลง แล้วตรวจดูแผลให้ผม  “...จริงไหม ฮิเดโกะ?”

จากนั้นหมอก็เอาเป้ออกมาเปิดหาอุปกรณ์การแพทย์

“เอ.. ผมว่าผมก็เอามาด้วยนี่นา”

แต่ที่หยิบออกมาดันมีแต่ ขวดน้ำ กล่องข้าว ถุงเท้าริลัคคุมะ(?) ผ้าขนหนู ถุงนอน ชุดนอน(?) หมวกอาบน้ำลายลูกเป็ด(??) หม้อ กาต้มน้ำ มีดพก ปืนพก ปืนลูกซอง ปืน m16 กล่องกระสุน ระเบิดลูกเกลี้ยง ระเบิดน้อยหน่า กระทั่งระเบิดซีโฟร์...

“อ้า! ไอ้นี่ยังเหลืออยู่อีกครึ่งกิโลฯนี่นา”  หมอพูดกับซีโฟร์ในมือ 

หรือว่าเสียงระเบิดที่ได้ยินก่อนหน้านี้จะเป็นฝีมือหมอนี่...

“เคอิจัง”  เสียงของฟ้าทำให้หมอรู้ตัวว่ามีเรื่องฉุกเฉินรออยู่

เขาจึงกลับไปค้นเป้ที่ราวกับกระเป๋าโดราเอมอนต่อ

“ซันนี่!”  ซินกลับมาดูผม

“เอิ่ม ดูเหมือนผมจะลืมเอากล่อง first aid มาล่ะ”  หมอสารภาพ

แกเป็นหมอจริงป่ะเนี่ย!? มีทุกอย่างยกเว้นเครื่องมือทำมาหากินของตัวเอง

“กล่องปฐมพยาบาลครับ!  คนของฟ้าเอากล่อง first aid มาให้พอดี

“แหม~ เรารอดแล้วล่ะ ฮิเดโกะ”  ท่าทางหมอไม่ได้รู้สึกผิดอะไรเลย

แต่ในที่สุดผมก็ได้ฤกษ์ทำแผลสักที...












โปรดติดตามตอนต่อไป.......



*มาริโอ คาวัวร์ โผล่มามีบทบาทอยู่ช่วงท้ายๆ ของภาคแรก

**ตระกูลซากาเรีย ถูกพูดถึงในตอน 'บันทึกของคุณเพลงซอ' ภาคแรกเช่นกัน


3 ความคิดเห็น:

  1. อ่าต้องกลับไปทบทวนความจำภาคแรกแป๊ป 5555

    ตอบลบ
  2. งื้ออออ เค้ามารอที่ท่าน้ำทุกวันเลย นี่เปิดรีเฟรชตลอดเลยนะคะ ยังรอสู้น้าาาาาา สู้ๆ นะคะ

    ตอบลบ
  3. ตามมาจากเล้าเป็ดคะ แบบใหม่นี่ซันเป็นที่พิ่งพาได้เยอะเลยอัพเลเวลขึ้นเยอะๆนะซันนี่ ว่าแต่เรื่องนี้ไม่อัพต่อจนจบหรอคะ รอเป็นกำลังใจให้ไรท์กลับมาเขียนต่อนะคะ สู้ๆคะ

    ตอบลบ